จุดเริ่มต้นของ “สิว” กับวิธีการดูแลตัวเองให้หน้าใส ไร้สิวกวนใจ

จุดเริ่มต้นของ “สิว” กับวิธีการดูแลตัวเองให้หน้าใส ไร้สิวกวนใจ

ถ้าจะให้พูดถึงโรคผิวหนัง ที่แพทย์ผิวหนังทั่วโลก ยกให้เป็นอันดับหนึ่ง “สิว” เพราะปัญหาผิวหน้าส่วนใหญ่ มักเกิดจากสิว แต่หลายคนยังเข้าใจผิดว่า สิวเป็นปัญหาเล็กน้อย สามารถซื้อยามารักษาด้วยตัวเองได้ แต่ความเป็นจริง ควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้อาการเรื้อรังได้ อีกทั้งการทำความสะอาดไม่ดี หรือไปแคะ แกะเกา ก็ยิ่งซ้ำเติมให้สิวรุนแรงขึ้นกว่าเก่า ดังนั้น ลองมาทำความรู้จักสิวให้มากขึ้น และวิธีดูแลตัวเองกัน

แค่เรื่องสิวๆ

สิว” คือ โรคต่อมไขมันที่รูขุมขน โดยทั่วไปมักขึ้นบริเวณใบหน้า คอ และลำตัวส่วนบน จัดเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่ จึงไม่แปลกที่สิวมักจะขึ้นในจุดส่วนบนของร่างกาย วัยที่เป็นสิวบ่อยๆ ต้องยกให้วัยรุ่น บางคนเป็นๆ หายๆ จนอายุเลย 40 ขึ้นไป สิวจะค่อยๆ หยุดไปเอง อีกทั้งบางคนก็ไม่มีสิวขึ้นที่ใบหน้าเลยเช่นเดียวกัน และสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว มีหลายปัจจัย ดังนี้

สาเหตุที่ทำให้เกิดสิว

โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว มี 4 อย่าง ดังนี้

1.หลั่งไขมันออกจากต่อมมากกว่าปกติ

เมื่อไขมันมีการหลั่งออกมาจากต่อมไขมันมากกว่าปกติ ก็จะส่งผลให้เกิดสิวง่าย โดยสาเหตุมาจากฮอร์โมนแอนโดรเจน หรือฮอร์โมนเพศชายในกระแสเลือดสูง

2.มีการอุดตันของท่อต่อมไขมัน

หากไขมันมีการหลั่งออกมาเพิ่มขึ้นเรื่องๆ จะส่งผลให้ท่อต่อมไขมันพองโตและแตกง่าย ตามมาด้วยอาการอักเสบ ทำให้เป็นตุ่มหนองหรือถุงน้ำ

3.เชื้อแบคทีเรีย P.Acnes ตัวการร้าย

การหมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย P.acnes คือ ตัวการร้ายที่ทำให้เกิดสิว โดยตำแหน่งของมันจะอยู่ในจุดลึกๆ ของท่อไขมัน พบได้ในเด็กวัยรุ่นอายุประมาณ 15-16 ปี และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ส่วนความรุนแรงของสิวจะสัมพันธ์โดยตรงกับปริมาณเชื้อแบคทีเรียในท่อไขมัน แต่จะไม่สัมพันธ์กับเชื้อแบคทีเรียบนผิวหน้า

4.เชื้อแบคทีเรีย P.Acnes อักเสบ

เป็นการอักเสบโดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับภูมิต้านทานของร่างกาย อาจเป็นเพราะความสกปรกของผิวหน้า หรือการจับบริเวณใบหน้าบ่อยๆ

ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการเกิดสิว

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว แบ่งได้ ดังนี้

1.กรรมพันธุ์และเชื้อชาติ

รู้หรือไม่! หากดูจากกรรมพันธุ์ พ่อแม่เป็นสิว ลูกก็จะเป็นสิวมากกว่าปกติ ส่วนฝาแฝดจากไข่ใบเดียวกัน ที่มีกรรมพันธุ์เหมือนกัน มักจะเป็นสิวหรือไม่เป็นสิวได้เหมือนกัน อีกทั้งกรรมพันธุ์ยังมีส่วนกำหนดบริเวณที่เป็นสิวได้ พูดง่ายๆ ถ้ามีพี่น้องเป็นสิวที่หลัง จะทำให้คุณมีโอกาสเป็นสิวที่หลังได้เช่นเดียวกัน หรือถ้าพี่หรือน้องเป็นสิวอย่างรุนแรง ก็เพิ่มโอกาสในการเป็นสิวอย่างรุนแรงได้เช่นกัน

2.อาหาร

แพทย์ผิวหนังหลายคน ไม่เชื่อว่าอาหารจะส่งผลให้เกิดสิว จึงไม่แนะนำให้คนที่เป็นสิวงดอาหารชนิด ชนิดหนึ่ง สามารถกินได้หมด แต่มีผู้เป็นสิวกลุ่มหนึ่ง มีความเชื่อว่า อาหารบางอย่างทำให้สิวเกิดขึ้นมาได้ โดยอาหารที่ถูกมองว่าทำให้เป็นสิวคือ พวกช็อกโกแลต ลูกนัต ลูกกวาด นม เนย ไขมัน เป็นต้น

3. การสัมผัสเสียดสี

เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน ยิ่งในนักกีฬาที่พันผ้าแถบรอบศีรษะ ส่งผลให้เป็นสิวจากการสัมผัสเสียดสีบริเวณหน้าผากได้ง่าย หรือในนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ที่ต้องสวมหมวกลงเล่นตลอดเวลา จะพบว่ามีสิวบริเวณคางเป็นจำนวนมาก เพราะสายรัดหมวกเสียดสีกับผิวหนัง

4.น้ำมัน

น้ำมันที่อยู่ในเครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือน้ำมันใส่ผม สามารถทำให้รูขุมขนอุดตัน และก่อให้เกิดสิวได้

จุดเริ่มต้นของ “สิว” กับวิธีการดูแลตัวเองให้หน้าใส ไร้สิวกวนใจ

5.เครื่องสำอาง

สำหรับสิวที่เกิดจากเครื่องสำอาง เรียกว่า Acne Cosmetica พบว่า รองพื้นที่มีส่วนผสมของ Lanolin, Petrolatum, น้ำมันพืชบางชนิด Butylstearate, Lauryl Alcohol และ Oleic Acid ทำให้เกิดสิวได้

6.สบู่

ในสบู่จะมีกรดไขมันบางชนิด ที่ทำให้ท่อทางเดินต่อมไขมันอุดตัน และก่อให้เกิดสิวได้ โดยสิวที่เกิดจากการล้างหน้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค จะเรียกว่า Acne Detergicans โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อโรคจำพวก Hexachlorophene จะเป็นสิวได้

7.ความเครียด

ภาวะความเครียด ก็เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดสิวได้ โดยความเครียดจะกระตุ้นให้ต่อมไฮโปรทาลามัส หลั่งสารเคมีมากระตุ้นต่อมปิตูตารี ที่ถูกกระตุ้น และหลั่งสารเคมีมากระตุ้นต่อมหมวกไต ทำให้หลั่งฮอร์โมนออกมาหลายตัว รวมทั้งแอนโดรเจน ก็ทำให้เกิดสิวกำเริบได้เช่นกัน นอกจากนี้ คนที่มีความเครียดมักจะคอยแกะเกาสิวอยู่ตลอด ส่งผลให้สิวอักเสบกำเริบขึ้นอีกได้

8. สเตียรอยด์

จัดเป็นยาที่นำมาใช้รักษาโรคผิวหนังหลายชนิด โดยนำมาใช้เป็นยาฉีด ยาเม็ดหรือยาทา ผู้ป่วยโรคผิวหนังที่ได้รับยาสเตียรอยด์ในรูปของยาฉีดและยากิน จะทำให้เป็นสิวได้มากขึ้น ส่วนยาทาที่มีความเข้มข้นสูง ก็ส่งผลให้เกิดสิวได้เช่นกัน

9.ประจำเดือน

หากสังเกตให้ดีผู้หญิงมักจะเป็นสิวในช่วงก่อนมีประจำเดือน เป็นเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ก่อนหน้ามีประจำเดือน ร่วมไปกับการที่มีระดับฮอร์โมนโปเจสเตอโรนที่สูงขึ้น ทำให้สิวกำเริบขึ้น นอกจากนั้น พบว่า ช่วงก่อนมีประจำเดือนจะมีน้ำคั่งในร่างกายมากกว่าปกติ ทำให้เซลล์ผิวหนังที่รูขุมขนบวมโตอุดตันท่อทางเดินของต่อมไขมันก่อให้เกิดสิวได้เช่นกัน

10.วัยหมดประจำเดือน

ในวัยใกล้หมดประจำเดือน รังไข่จะลดการทำงานลง ทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรจนที่มีฤทธิ์ป้องกันสิวก็ลดลงตามเช่นเดียวกัน ในขณะที่ฮอร์โมนแอนโดรเจนที่ก่อให้เกิดสิว ซึ่งสร้างจากต่อมหมวกไต ยังคงมีการผลิตตามปกติ จึงพบว่า หญิงวัยหมดประจำเดือนก็มีสิวได้เช่นกัน แต่อาจจะน้อยกว่าวัยอื่นๆ

จุดเริ่มต้นของ “สิว” กับวิธีการดูแลตัวเองให้หน้าใส ไร้สิวกวนใจ

11.การตั้งครรภ์

ในเคสการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดสิวหรือไม่ก็ได้ เพราะบางรายแม้ตั้งครรภ์ก็ไม่เป็นสิว แต่บางคนสิวจะกำเริบขึ้น อาจเป็นเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอนขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างการตั้งครรภ์

ข้อแนะนำสำหรับผู้เป็นสิว

ใครที่เป็นสิวบ่อยๆ ลองมาดูคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญกัน

1.ล้างหน้าด้วย Cleanser หรือสบู่อ่อน

ควรล้างหน้าด้วย Cleanser ที่ระบุว่า ไม่ทำให้เกิดคอมีโดน “Non-Comedogenic” ประกอบด้วย สารเคมีที่อ่อนไม่ระคายเคืองหรือรบกวนผิว ซึ่งทำให้เกิดคอมีโดน หรือสิวอุดตัน หรือเลือกสบู่อ่อนที่ใช้สารเคมีที่ผ่านการทดสอบแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดสิว และไม่ควรถูหน้าแรง เพราะทำให้เกิดการระคายเคืองได้

2. เลือกเครื่องสำอางที่อ่อนโยนต่อผิว

ครีมบำรุงผิว หรือครีมทาหน้า ควรเลือกใช้ครีมที่มีความอ่อนโยน และมีสารที่ให้ความชุ้มชื้นเป็นหลัก ซึ่งมีส่วนประกอบเป็นสารเคมี ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว โดยทั่วไปชุดเมคอัพ เช่น ลิปสติก แป้ง บรัชออน มาสคาร่า อายแชโดว และชุดรองพื้น จะไม่ก่อให้เกิดสิว

3. อย่าบีบหรือแกะสิว

เพราะทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และทำให้เกิดแผลเป็นได้

4. ไม่ควรใช้ยาที่รักษาได้ทั้งสิวและฝ้า

เพราะยาพวกนี้มักผสมสเตียรอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้สิวอักเสบยุบเร็ว แต่มีภาวะแทรกซ้อนมากมาย โดยมีการกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันขึ้นมาใหม่มากกว่าเดิม ทำให้สิวไม่หายขาดแน่นอน

5.สิวอักเสบมาก ต้องกินยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม

ใครที่เป็นสิวอักเสบบ่อยๆ ต้องกินยาให้ครบและสม่ำเสมอ หรืออาจจำเป็นต้องได้รับยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ผิวหนังเท่านั้น

6.หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า ถูหน้า พอกหน้า

เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสี และเกิดเป็นสิวได้

7.อย่าปล่อยทิ้งไว้

การรักษาสิวให้เห็นผล ควรรักษาตั้งแต่ครั้งแรก ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้สิวเรื้อรัง และรักษาให้หายขาดได้ยากกว่า อีกทั้งต้องเข้าพบหมออย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้อาการของคุณดีขึ้นในเร็ววัน

เรียกได้ว่าสิวเป็นปัญหากวนใจที่ใครๆ ก็ไม่อยาก เมื่อได้ทริคป้องกันสิวแล้ว เรื่องอาหารการกินก็สำคัญ เพราะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดสิวได้ เราเลยมีตัวช่วยดีๆ มาบอก STC Plus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพลูคาว กระชายขาว ช่วยฟื้นฟูแผลจากสิว พร้อมปรับสมดุลให้ร่างกาย ทำให้แผลแห้งเร็ว ยิ่งทานต่อเนื่อง จะช่วยลดการเกิดสิวได้ดีกว่า อีกทั้งช่วยซ่อม เสริม สร้างลึกถึงระดับเซลล์ และปรับสมดุลให้ร่างกาย ช่วยชะลอวัย รวมทั้งกระชับทุกรูขุมขน ช่วยให้คุณได้ใบหน้าสวยๆ กลับมาแน่นอน

สั่งซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว

คำสั่งซื้อเลขที่